Bathroom Furniture

วันพุธ, มีนาคม 26, 2551

Unit 2 Introductions


พบกันอีกแล้วนะครับกับ GEEN1001 (English for Communication) ซึ่งในวันนี้เราก็กลับมาพบกันอีกในบทที่ 2 ชื่อบทคือ Introductions คือการแนะนำเพื่อนสองคนให้รู้จักกัน เช่นเคยครับ ก่อนจะเข้าสู่รายละเอียดของเนื้อหา เราก็มาดู Scope ของบทนี้นะครับว่า เรียนเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งเนื้อหาหลักๆ ที่จะเรียนมีดังนี้
1. Introductions (สำนวนเกี่ยวกับการแนะนำคน 2 คน ให้รูจักกัน)
2. Talking about occupation (สำนวนที่เกี่ยวกับการถาม - ตอบเรื่องอาชีพ)
3. Indefinite article 'a, an' (การใช้ภาษา: คำนำหน้านามที่ทั่วไปไม่เจาะจง)
4. Simple present tense (การใช้ : ปัจจุบันกาลธรรมดา)
5.Occupations (คำศัพท์ที่เกี่ยวกับอาชีพ)
6. Word Stress (การลงเสียงหนักเบาที่คำที่มีมากกว่าสองพยางค์)
7. Reading and Writing (เทคนิคการอ่านและการเขียน)
เป็นอย่างไรครับ ดูหัวข้อแล้ว ไหวไหมครับ ถ้าไม่ไหวก็ต้องไหวนะครับ งั้นเรามาดูรายละเอียดกันเลย

Introductions of Other people (การแนะนำคน 2 คน ให้รูจักกัน)
มองจากสถานการณ์นี้ จะมีบุคคลในบทสนทนาถึง 3 คนด้วยกัน ประกอบด้วย
1. สมมติชื่อว่า A เป็นคนที่รู้จักทั้ง 2 คน
2. สมมติชื่อว่า B เป็นคนที่รู้จักกับ A แต่ยังไม่รู้จัก C
3. สมมติชื่อว่า C เป็นคนที่รู้จักกับ A แต่ไม่รู้จัก B
คราวนี้เราก็มาดูสำนวนตัวอย่างนะครับ ทั้งที่เป็นทางการ (formal) และไม่เป็นทางการ (informal)
Formal introduction of other people
Teacher: Why are you standing here, Pam?
Pam: I am waiting for my father.
Teacher: What does your father do?
Pam: He is a judge. There comes my father.
Father, may I introduce Ms Nantinee, my teacher.
Father: How do you do?
Teacher: Pleased to meet you.
Informal introduction of other people
Dao: Hello, Tawee. How’re you?
Tawee: Good, thanks. And you?
Dao: Fine, thanks.
Tawee, this is my friend, Pat.
Pat, this is Tawee.
Tawee: Nice to meet you.
Pat: Nice to meet you, too.

หมายเหตุ: คำหรือสำนวนที่เป็นสีแดง หมายความว่าสามารถใช้สำนวนอื่นซึ่งมีความหมายเดียวกันได้ เช่น

May I introduce ..... เราสามารถใช้สำนวนต่อไปนี้แทนได้ ได้แก่
Let me introduce ....
I would like to introduce ....

Talking about occupation
สำหรับสำนวนที่เกี่ยวกับอาชีพนั้น ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย หากเราสร้างประโยคคำถามพื้นฐานได้
ในที่นี้เราใช้ verb 'do' กับการถามอาชีพ ตามโครงสร้างประโยคและความสอดคล้องระหว่างประธานและกริยา (Subject- verb agreement) ดูตัวอย่างนะครับ
(Wh-word + helping V.(do/does) + Subject + main V. (base form))
Tawee: What do you do, Pat?
Pat: I am a secretary.
หรือ
Teacher: What does your father do?
Pam: He is a judge.

สังเกตดูตัวสีแดงนะครับ ก็เหมือนที่กล่าวมาแล้วนะครับว่า สามารถเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ว่า ถามใคร
เวลาตอบก็เหมือนกับการใช้ personal pronouns นั่นเองคือ
ถามด้วยประธาน You ตอบด้วย I หรือ
ถามด้วยประธาน He ตอบด้วย He
นอกจากนี้ เมื่อเป็นประโยคแล้ว ยังต้องดูเรื่อง ความสอดคล้องของประธานและกริยา(Subject-verb agreement) จากตัวอย่าง
do สอดคล้องกับ you
does สอดคล้องกับ your father
เราจะดูเฉพาะกริยาตัวแรกกับประธานเท่านั้น

Indefinite articles 'a' and 'an'
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกคนเรียนมาแล้ว แต่เวลาถามไม่เห็นจะตอบได้ถูกต้องแม่แต้คนเดียว ไม่น่าเชื่อนะครับ
ขอย้ำนะครับว่า การเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานนั้น ไม่ใช่เรียนใหม่ เพียงแต่เป็นการทบทวนภาษาอังกฤษของท่านแค่นั้นเองว่า ในการเรียนภาษาที่ผ่านมา ท่านเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เท่านั้นเอง
Indefinite articles คือ คำนำหน้านามที่ไม่เฉพาะเจาะจงมี 2 ตัวคือ a และ an 2 ตัวนี้ใช้อย่างไร
a + noun with consonant sound (a วางไว้หน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ)
an + noun with vowel sound (an วางไว้หน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ)
ดูตัวอย่างนะครับ
a university (อะ ยูนิเวอสิทิ)
an hour ( แอน อาวเออะ)
และเรานิยมใช้ 2 คำนี้ในการพูดถึงอาชีพต่างๆ อย่าลืมนะครับ เวลาใครถามเกี่ยวกับอาชีพ คำตอบต้องมี a หรือ an วางไว้หน้าเสมอนะครับ

Present Simple Tense
เมื่อพูดถึง English for Communication แล้ว Present simple tense นิยมใช้มากที่สุดในการสนทนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการณ์พูดถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน ในบทนี้ก็ได้พูดถึงการใช้ tense นี้ ในการสนทนา แน่นอนครับ การสนทนาคือการถาม-ตอบกันนั่นเอง จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าเราสร้างคำถามและคำตอบได้ งั้นเรามาทบทวนการสร้างคำถามและคำตอบกันอีกนะครับ
Affirmative sentences (ประโยคบอกเล่า) S + V1...
a) I work at Personnel Division.
b) You always get up late.
c) She cleans the house and does the washing.
d) He likes the food at this restaurant.
e) We go to work by bus.
f) They drive to work everyday.
g) His daily work (it) starts at 11 a.m.

นั่นคือโครงสร้างและตัวอย่างประโยคบอกเล่า ซึ่งเราจะใช้เป็นคำตอบ โดยวางประธานไว้หน้ากริยาดังตัวอย่าง จุดที่อยากจะให้สังเกตก็คือ สีน้ำเงินและสีแดง
เมื่อเป็นประโยคเราก็จะดูที่ความสอดคล้องระหว่างประธานและกริยา
ข้อควรสังเกต กริยาใน Present นั้น ทั้งหมดยกเว้น verb 'be' มี 2 รูป คือ รูปที่เติม -s และรูปที่ไม่เติม -s ตามประธานนั่นเอง กล่าวคือ
- กริยาที่ไม่เติม-s ใช้กับประธาน I, You, We, They และ plural nouns (คำนามพหูพจน์)
- กริยาที่เติม -s ใช้กับประธาน He, She, It และ singular nouns (คำนามเอกพจน์) สังเกตดูตัวอย่างอีกครั้งนะครับ

Negative sentences (ประโยคปฏิเสธ) S + don't/ doesn't + main V. (base form)...
a) I don't work at Personnel Division.
b) You don't always get up late.

c) She doesn't clean the house and doesn't do the washing.
d) He doesn't like the food at this restaurant.
e) We don't go to work by bus.
f) They don't drive to work everyday.
g) His daily work (it) doesn't start at 11 a.m.

ข้อควรจำเกี่ยวกับประโยคปฏิเสธ ผู้เขียนก็ได้ทำเป็นสีแดงต่างๆ ไว้เพื่อง่ายแก่การเข้าใจดังนี้
1. คำหรือวลีสีแดงซึ่งเป็นประธาน จะสอดคล้องกับวลีที่เป็นสีแดงซึ่งเป็นกริยาช่วยคือ don't หรือ doesn't
2. คำกริยาที่เป็นสีเขียวนั้นคือกริยาแท้ เป็น base form คือ รูปกริยาที่ยังไม่ผันรูป แล้วbase form มันอยู่ตรงไหน อยู่ตรงนี้ครับ
ในกริยา 3 ช่อง base form หรือ infinitive อยู่ข้างหน้ากริยาช่องที่ 1 ตามตารางข้างล่างนี้ครับ
base form------Present(กริยาช่องที่ 1)---Past(กริยาช่องที่ 2)---Past Participle (กริยาช่องที่ 3)
eat-------------eat, eats------------ate---------------eaten
go--------------go, goes------------went--------------gone etc.
ซึ่งกริยารูป base form นี้จะใช้ทั้งในประโยคปฏิเสธและคำถามของ Simple tense ทั้ง Present และ Past เลยนะครับ
Questions (ประโยคคำถาม) (wh-word) + do/ does+ S+ main V. (base form)...
a) Do you work at Personnel Division?
b) Does she clean the house and do the washing?
คำอธิบายของการสร้างประโยคคำถามนั้นคล้ายกับประโยคปฏิเสธ ต่างแต่ตำแหน่งการวางของประธานและกริยาเท่านั้นเอง ได้แก่
1. กริยาช่วย(สีแดง) อยู่หน้าประธาน(สีฟ้า) และต้องสอดคล้องกันนะครับ
2. กริยาแท้(สีเขียว)เป็นรูป base form
3. หากเป็นประโยคคำถามแบบ wh-question ก็จะมีคำ wh-word อยู่ข้างหน้ากริยาช่วย
ในบทที่ 2 นี้ เรื่องที่สำคัญก็มีเท่านี้นะครับ หรือหากใครสงสัยเรื่องใดอยากถามก็ comment มาถามก็แล้วกัน แล้วพบกันในบทที่ 3 ครับ... Bye!

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Formal Introduction
Sawitree: Somchai, may I ..
Somchai